[Fic Kagerou Project] ไม่กินเต้าหู้แต่ขอกิน..เธอแทนนะ~ Kano x Kido - [Fic Kagerou Project] ไม่กินเต้าหู้แต่ขอกิน..เธอแทนนะ~ Kano x Kido นิยาย [Fic Kagerou Project] ไม่กินเต้าหู้แต่ขอกิน..เธอแทนนะ~ Kano x Kido : Dek-D.com - Writer

    [Fic Kagerou Project] ไม่กินเต้าหู้แต่ขอกิน..เธอแทนนะ~ Kano x Kido

    เมื่อในตู้เย็นไม่มีอะไรเหลือ..เรื่องจึงเกิดขึ้น (ไม่รู้จะอธิบายยังไงค่ะ กดอ่านก็จะทราบเองค่ะ) kano x kido ปล.มิได้ติดเรทขนาดชื่อนะค่ะ -3-

    ผู้เข้าชมรวม

    1,158

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.15K

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    24
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 ต.ค. 57 / 11:31 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    Yo!
    สวัสดีค่ะ ไรท์จอมขี้เกียจมาลงฟิคเรื่องใหม่แล้วค่ะ แน่นอนว่าเป็นเรื่องสั้นเช่นเดิมค่ะ 55
    ถ้ายังไม่หวานพอ ไรท์เตอร์ก็ไม่รู้จะทำไงแล้วค่ะ ฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยนะค่ะ 
    จะไม่ดีนักต้องเรียกว่าห่วยสุดๆเพราะไรท์พิมพ์ในมือถือ
    ก็เลยสั้นมากสมเป็นเรื่องสั้นสักที 55 มันเจ็บนิ้วค่ะ T3T


    ไรท์มีข่าวมาแจ้ง
    ไรท์ทำลาเบลชุด KagePro ค่ะ 
    ดูตัวอย่างได้จากไอคอนรูปคิโดะซังและอายาโนะข้างล่าง ทำครั้งแรกก็ยังงี้ละค่ะ
    ใครอยากได้ส่งมาบอกได้นะค่ะ แล้วไรท์จะใส่ไว้ในห้องเก็บของของไรท์
    จะได้มาเอากันค่ะ

     

    SQWEEZ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      ----------------------------------
       
       
      จิ๊บ จิ๊บ
      นกนัอยส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วด้วยความร่าเริง ใบไม้ไหวตามลมอย่างช้าๆ พระอาทิตย์ซ่อนตัวภายใต้ก้อนเมฆกลุ่มเล็กในท้องฟ้าสีคราม วันนี้อากาศดีเหมาะแก่การออกไปเดินเล่น ลมอ่อนๆพัดพากลิ่นหอมหวนของดอกไม้ที่เด็กสาวทายาทเมดูซ่าปลูกไว้ที่ระเบียงโชยเข้าจมูกคนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น

      "ฮัดชิ้ว ตอนนี่กี่โมงแล้วเนี่ย คิโดะ" หนุ่มผมบลอนด์หันมาถามเด็กสาวที่นั่งดูทีวีอยู่ข้างๆก่อนจะจามอีกรอบ

      ผู้ที่ถูกถามถอนหายใจ เธอไม่ตอบแต่ยื่นกล่องทิชชู่ให้เขาแทน

      คาโนะรับกล่องทิชชู่มาวางไว้บนตัก เขาพึมพำเบาๆ "คิโดะนี่เหมือนแม่จริงๆนั่นละ"

      "นายว่าอะไรนะ" คิโดะถามด้วยเสียงเนือยๆพลางดูดน้ำแดงโซดาในมือ

      ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามแล้ว แมรี่ไปซื้อต้นไม้มาปลูกกับเซโตะและโมโมะ ฮิบิยะไม่อยากไปไหน แต่โดนโมโมะลากไปด้วย 

      ส่วนทาคาเนะกับอายาโนะก็ปฏิบัติการลากสองหนุ่มออกมาเที่ยว ทำให้เธออยู่กับคาโนะกันสองคนอีกเช่นเคย

      "ฮะๆ ไม่มีอะไรหรอก~ คิโดะอยากฟังเสียงผมขนาดนั้นเลย~" คาโนะยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะโดนฝามือพิฆาตที่หัวไปรอบนึง "มันเจ็บนะ เดี๋ยวผมก็สมองเสื่อมกันพอดี ฮัดชิ้ว"

      เธอดูดน้ำอย่างสบายใจไม่สนใจเสียงร้องโอดโอยของเขา "ถ้าแพ้กลิ่นดอกไม้..ก็ไม่เห็นต้องให้แมรี่ปลูกต้นนี้เลย"

      หนุ่มตาแมวเช็ดน้ำมูกที่ไหลออกมาจากการจาม เขาโยนทิชชู่ลงถังขยะอย่างแม่นยำ "ผมไม่ได้แพ้แต่กลิ่นดอกไม้มันแรงมากเลย ถ้าอ่อนๆมันก็หอมนะ แต่นี้มันแรงเกินไป คิโดะลองมานั่งสิ บนตักผมก็ได้นะ~"

      เด็กสาวส่งสายตาอำมหิตพลางดัดข้อมือ เสียงกระดูกดังกร๊อบเหมือนกระดูกจะร้องโหยหวนเพราะความรุนแรงของเจ้าของ 

      "เน้ๆ คิโดะซังใจเย็นๆสิครับ ผมล้อเล่น~ ว่าแต่มื้อเย็นกินอะไรละ" เขารีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเพื่อความปลอดภัยของเขาเอง

      คิโดะลดมือลง เธอมองหน้าเด็กหนุ่มขี้แกล้งพอเป็นสัญญาณ 

      '..ขอไปดูในตู้เย็นก่อน..'

      หัวหน้าสาวลุกขึ้นเดินไปที่ห้องครัวเพื่อดูของในตู้เย็น เสียงเปิดตู้เย็นดังขึ้น คาโนะนั่งกระดิกเท้ารอว่าเมื่อไรเด็กสาวจะเดินมา ในที่สุดคิโดะก็เดินกลับมานั่งพร้อมกระดาษและปากกาในมือ

      "ว่าไง เย็นนี้คิโดะจะทำอะไรให้ผมกิน~" เขาสะกิดไหล่เธอเบาๆ

      "ไม่มีอะไรในตู้เย็นเหลือให้ทำอาหารเลย..."เธอเขียนวัตถุดิบต่างๆในกระดาษ "นายต้องไปซื้อแล้วละ..."

      "อ่า..ผมไปได้นะ แต่ว่า..." คาโนะขยับเข้ามาใกล้ๆก่อนจะพูดเบาๆ "คิโดะก็ต้องอยู่คนเดียว..อยู่ได้หรอ?"

      ร่างบางที่กำลังเขียนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเขียนต่อไป

      "ตอนนี้เดือนตุลา..ช่วงนี้...ผีดุด้วยนะ~ แต่คุณหัวหน้าก็คงไม่กลัวอยู่แล้วเนาะ~" คาโนะแบมือข้างตัวแล้วหัวเราะเบาๆ

      คิโดะสะดุ้งอีกครั้ง คราวนี้เธอมือสั่นและหยุดเขียนไปเสียดื้อๆ ก่อนจะลุกไปเก็บปากกาแล้วหันมาเผชิญหน้ากับคาโนะที่นั่งยิ้มอยู่
      "..ฉันจะไปกับนาย..ที่ไปเพราะว่าเดี๋ยวนายซื้อไม่ถูก...ไม่ใช่เพราะกลัวผีนะ"
       
      ผ่านไปสองชั่วโมง
       
      ตอนนี้เพื่อนสนิททั้งสองเดินอยู่ท่ามกลางผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของทั้งสองข้างทางของถนนแห่งนี้ เสียงขานเรียกลูกค้าของแม่ค้าและเสียงลูกค้าที่ขอลดราคาผักในมือกับคนขายดังทั่วถนน 

      มือทั้งสองข้างถือถุงพลาสติกที่มีทั้งผัก ผลไม้ เนื้อ ปลาซาบะ เนย และอื่นอีกเยอะจนคาโนะถือแทบไม่ไหว จะไม่หนักได้ยังไงในเมื่อคิโดะถือแต่ของเบาๆแล้วเอาของหนักๆมาให้เขาถือแทน

      "คิโดะ นี้เราจะกินทั้งหมดนี้เลยหรอ" เขาอดที่จะบ่นไม่ได้จริงๆ เขามองเพื่อนสาวที่เอาแต่มองแผนที่ใบน้อยในมือ

      'แผนที่..การเดินทางไป..ร้านโตฟุมิ..หรอ?'

      พวกเขาเดินมาเรื่อยๆ ผ่านร้านขายดังโงะ ร้านผักผลไม้ และร้านเบเกอรี่ คิโดะเงยหน้าเพื่อมองตรอกข้างทาง 

      "เราจะเข้าไปในตรอกนี้กันหรอ" คาโนะมองเข้าไปในตรอกที่แทบไม่มีใครสังเกตว่ามีอยู่

      คิโดะถอนหายใจ เธอเดินเข้าไปในตรอกที่ค่อนข้างมืดผิดกับบรรยากาศที่ดูครึกครื้นสว่างไสวของถนนพร้อมกับคาโนะที่ดูตื่นเต้นเหมือนเด็กๆไปทัศนศึกษานอกโรงเรียนของเด็กอนุบาล

      ในตรอกนั้นมืดและเงียบมาก ทั้งทีไม่ห่างจากถนนหลักนัก ผนังสูงหลายเมตร แต่ไม่สกปรกอย่างที่คิดไว้ ควรจะบอกว่าสะอาดซะด้วยซ้ำ พื้นไม่มีรอยเปื้อนสกปรก จะมีรอยเปื้อนที่ขัดไม่ออกเท่านั้นที่อยู่บนพื้นและผนัง ไม่มีเศษขยะอะไร มีเพียงลังกระดาษที่วางซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ การเดินไม่ค่อยลำบากนักเพราะท้องฟ้ายังไม่มืดนัก เมื่อเดินไปได้สักพักก็ถึงส่วนที่มีแสงสว่างเหมือนถนน เป็นแสงจากโคมไฟที่อยู่หน้าร้านในตรอกซึ่งมีอยู่แค่ร้านเดียว หน้าร้านปิดป้ายประกาศที่ดูคลาสสิคมาก

      'ร้านโตฟุมิ ยินดีให้บริการ ร้านเปิดตั้งแต่ 10.00-21.00 น.'

      "ร้านนี้ขายอะไรเนี่ย" คาโนะมองร้านที่เปิดอยู่ร้านเดียวในตรอกอย่างสนใจ

      ร้านนี้มีสภาพที่ดูเก่ามาก ซึ่งดูได้เลยทันทีว่าเป็นบ้านไม้ที่มีคนอาศัยอยู่ หน้าร้านมีลังกระดาษวางอยู่หลายกล่องและยังมีม้านั่งไว้นั่งรออีกด้วย

      "เข้าไปเดี๋ยวก็รู้เอง" คิโดะผลักประดูไม้เข้าไป ในร้านตกแต่งแบบร้านญี่ปุ่นของแท้ สิ่งของเครื่องใช้ล้วนเป็นไม้ มีเด็กผู้หญิงตัวน้อยกำลังนั่งหันหลังดูทีวีอยู่หลังเคาท์เตอร์อย่างตั้งใจโดยไม่สนใจผู้มาเยือนทั้งสอง จนคิโดะต้องกระแอมไปทีนึง เด็กน้อยจึงหันมาหน้าบึ้งใส่ทั้งสอง

      "พี่ซึโบมิมาขัดจังหวะทุกครั้ง...วันนี้จะเอาอะไรค่ะ" เด็กน้อยพูดด้วยเสียงเนือยๆก่อนจะหันไปดูทีวีอีก เธอใส่แว่นและถักเปียเดียวไว้ข้างหลัง แก้มเรื่อสีชมพูดูน่าหยิก หน้าตาบึ้งตึงเจ้ากับแว่นหนาๆของเธอ

      เด็กสาวผู้ถูกเมินไปยิ้มนิดๆ ก่อนจะตอบเพียงว่า "สัปดาห์นี้มีเต้าหู้แบบไหนบ้างละ..ฮินะ"

      คาโนะแอบมองเพื่อนที่มาด้วยกันพลางเดินสำรวจรอบๆร้าน 'ร้านนี้ขายเต้าหู้หรอเนี่ย..ว่าแต่เดี๋ยวนี้เขาใช้แรงงานเด็กกันแล้ว?!?'

      เด็กน้อยผู้ชื่อ ฮินะ ยังดูทีวีต่อไปขณะที่ตอบลูกค้ายามเย็น "มีหลายอย่างค่ะ..เต้าหู้ไข่..ฟองเต้าหู้..เต้าหู้คินุ..หรือจะเอาเต้าหู้จีนดีค่ะ?"

      "เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบใช้เต้าหู้จีน..ขอเต้าหู้คินุละกัน"

      "พี่เอาแต่แบบเดิมทุกครั้ง แล้วพี่จะถามทำไมค่ะเนี่ย" ฮินะหันมาพึมพำด้วยความหงุดหงิด เธอเดินเข้าไปหลังร้านก่อนจะกลับมาพร้อมกล่องพลาสติกที่ใส่เต้าหู้ยื่นให้ลูกค้าสาวสุดสวย

      "เดี๋ยวครั้งหน้าจะเอาขนมมาฝากละกัน..ไปนะ" คิโดะโบกมือให้เด็กหญิง แล้วลากเพื่อนสนิทที่เงียบตั้งแต่เข้ามาในร้าน

      ฮินะยิ้มออกมา ทำให้หน้าตาที่เมื่อกี้บึ้งตึงกลับน่ารักน่าหยิก "อย่าลืมนะค่ะ พี่ซึโบมิ~"

      ทั้งสองเดินออกมาจากตรอกมืดเข้าสู่ถนนหลักแล้ว ทำให้รู้สึกว่าเสียงจากคนบนถนนช่างดังจริงๆ คาโนะที่เงียบมาตั้งแต่เข้าไปในร้านเข้าไปสะกิดไหล่คิโดะเบาๆ 

      "นี้ๆ น้องคนนั้นนะ เขาอายุเท่าไรแล้ว"

      เธอส่งสายตาอำมหิตทันที "นายถามอายุผู้หญิงได้ไง..คา..โนะ..ไม่มีมารยาทจริงๆเลย!!!"

      "ว้าก!!!!"
       
      ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
       
      "กลับมาแล้ว"

      ในที่สุดก็ได้กลับมาฐานทัพ แมรี่ โมโมะ ฮิบิยะและเซโตะนั่งเล่นสลาฟ*โดยใช้ไพ่ชุดสัตว์น้อยน่ารักรอสองสหายกลับมาอย่างสนุกสนาน

      "หึหึ คุณป้า อย่าลืมนะว่า คนแพ้ต้องทำอะไรนะ" สมาชิกที่อายุน้อยที่สุดกล่าวอย่างผู้มีชัยขณะถือไพ่เพียงสามใบในมือ

      ไอดอลสาวนั่งเหงื่อตกกับไพ่ที่ตนมีอยู่ ตอนนี้เธอมีไพ่เหลือเยอะที่สุด "ระ..รู้แล้วน่า..คนแพ้ต้องไปรับใช้พี่หนึ่งวันเต็ม..ฉันไม่แพ้แน่!!!"

      "ฉะ..ฉันก็จะพยายามค่ะ!!" แมรี่จ้องไพ่ห้าใบในมือปานจะกลืนไปกับเนื้อกระดาษ

      เซโตะที่ตอนนี้เหลือไพ่เพียงใบเดียวขำกับท่าทางขมักเขม้นของสองสาวในวง "รีบลงเถอะ ตานี้เป็นของคิซารากิจังนะ ผมจะได้ลงสักที"

      คนทั้งสี่ยังนั่งเล่นต่อไปโดยไม่สนใจสมาชิกที่เพิ่งกลับมา คิโดะเดินเข้าห้องครัว คาโนะเลยต้องเดินเจ้าไปสะกิดไหล่เซโตะ "พวกชินทาโร่คุง
      ยังไม่กลับมาหรอ"

      ผู้ถูกถามส่ายหน้า "ยังเลย น่าจะสนุกจนเพลินนะ"

      คาโนะมองนาฬิกาก่อนจะบอกโมโมะว่าต้องแพ้แน่จนโดนแหวกลับเลยเดินตามหัวหน้าของตนเข้าครัวไป
      "วันนี้ซึโบมิจังจะทำอะไรให้กินเอ่ย~"

      คิโดะกลอกตาก่อนจะหยิบกล่องเต้าหู้ออกมา "วันนี้กินเต้าหู้เย็น สบายท้องดี ถ้าไม่มีอะไรทำก็ไปนั่งรอไป"

      "เอ๋ ทำไมไล่กันเลยละ ผมอยากเห็นคิโดะโชว์ฝีมือนินา~" คาโนะอิดออดไม่อยากไป สุดท้ายโดนหมัดไปหมัดนึงจึงต้องถอนตัว

      แม่ครัวมือฉมังแกะกล่องเต้าหู้ออกมา แล้วเริ่มทำอาหารทันที เต้าหู้เย็นทำไม่ค่อยยากนัก เธอจึงทำเสร็จค่อนข้างเร็ว 

      เด็กสาวจัดจานเสร็จเรียบร้อย เธอมองเต้าหู้ในจานตัวเองก่อนจะมองซ้ายมองขวา

      '..อึก..ขอแอบกินสักหน่อยละกัน..' 

      ขณะที่คิโดะกำลังชิมเต้าหู้ในจานของตน ก็มีเงาหนึ่งมาจับไหล่ 

      'เฮือก อะ..อะไรนะ อย่าบอกนะว่า...!!'

      เสียงของคนที่กวนได้ตลอดเวลาก้องกังวาลในหัวเธอ

      'ตอนนี้เดือนตุลา..ช่วงนี้...ผีดุด้วยนะ~..'

      คิโดะปล่อยหมัดไปที่สิ่งที่แตะไหล่เธอทันที ไม่ว่าจะเป็นอะไรเธอก็จะไม่ปล่อยไว้แน่

      "อึก คะ..คิโดะ ผมเอง..." หนุ่มผมบลอนด์ลงไปนอนที่พื้นขณะที่มือกุมท้องที่เพิ่งโดนชกมา

      เด็กสาวผู้เกือบเป็นฆาตกรมองภาพตรงอย่างโล่งใจ..อย่างน้อยก็ไม่ใช่ผี...

      "นี้ คิโดะต้องรับผิดชอบนะ~" เขาลุกขึ้นมานั่งโดยที่ทำหน้าตาให้ดูน่าสงสารที่สุด 

      คาโนะมองไปที่ช้อนที่วางอยู่ข้างจานเต้าหู้จานหนึ่งซึ่งมีรอยโดนตักไปกินแล้วก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์
      "คิโดะแอบกินอาหารเย็นก่อนหรอเนี่ย..สงสัยต้องรับผิดชอบสองเท่าแล้วละ" เด็กหนุ่มหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้เธอ

      เด็กสาวได้แต่กอดอกและถอนหายใจ "จะให้ฉันทำอะไรละ"

      คาโนะหยิบช้อนทีาเธอเพิ่งใช้กินเมื่อกี้ตักเต้าหู้กิน เขาลิ้มรสเต้าหู้ที่หอมและนุ่มสมกับที่คิโดะทำ 

      "นายต้องรับผิดชอบด้วยซ้ำ ทำฉันตกใจแท-" คำพูดของเธอถูกตัดไปเพราะริมฝีปากของเด็กหนุ่มตรงหน้าประกบกับริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็ว เขาค่อยๆลิ้มรสหวานอย่างช้าๆ ริมฝีปากของผู้หญิงตรงหน้าเขานุ่มนิ่มและหอมหวานกว่าเต้าหู้ที่เขาเพิ่งกินไปด้วยซ้ำ เขาค่อยๆถอน
      ริมฝีปากออกแล้วตอบเด็กสาวที่หน้าแดงเป็นมะเขือเทศเพียงว่า "ขอบคุณสำหรับมื้อนี้นะ ซึ โบ มิ~"

      คิโดะที่ตอนนี้หน้าแดงเป็นมะเขือเทศบีบมือตัวเองแน่นก่อนจะตะโกนลั่นไปอีกสามช่วงตึก

      " ไปตายซะ ไอ้บ้าคาโนะ!!!!!"
       
      "อ้าว หน้าคาโนะซังโดนอะไรมาค่ะ ทำไมบวมแดงจัง" แมรี่ผู้ใสซื่อมองหน้าบวมของหนุ่มตาแมวที่เพิ่งรับผิดชอบเรื่องสักอย่างที่ไม่มีใครรู้

      ตอนนี้ทุกคนนั่งกินมื้อเย็นอย่างเอร็จอร่อย ชินทาโร่และคนอื่นๆกลับมาหลังจากเสียงตะโกนที่ดังอย่างบ้านแตกไปแล้วไม่นาน

      อายาโนะหันมาถามน้องชายอย่างเป็นห่วง "ชูยะไปโดนอะไรมานะ หน้าบวมเลย"

      "แหะๆ ไม่มีอะไรครับ" คาโนะเหล่มองไปทางสาวผู้เป็นต้นเหตุซึ่งตอนนี้นั่งห่างกับเขาเป็นพิเศษ

      "ต้องเกี่ยวกับคิโดะแน่เลย...ฉันรับประกัน.." ชินทาโร่ยังกินข้าวต่อไปได้หน้าตาเฉยขณะที่ผู้ถูกพาดพิงหน้าแดงก่ำ

      ผู้อ้างตัวเป็นผู้ถูกทำร้าย(?)อดขำไม่ได้กับท่าทีของผู้หญิงที่เขาเพิ่งไปขโมยจูบมา "ว่าแต่นะ..คิโดะจ่ายค่าเต้าหู้แล้วหรอ?"

      คิโดะไม่รู้จะตอบอะไรดี เธอลืมจ่ายค่าเต้าหู้

      '..ฮินะคงต้องโดนบ่นอยู่แน่..ขอโทษนะ..ฮินะ'
       
      ตัดมาที่ร้านโตฟุมิ
       
      "..บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้ลืมเก็บตังค์ลูกค้า บลาๆ" 

      เสียงผู้หญิงวัยกลางคนบ่นลูกสาวตนเองดังทั่วร้าน เธอบ่นมานานกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วเพราะความสะเพร่าของลูกสาว

      'พี่ซึโบมิ~ พี่ต้องรับผิดชอบ!! หนูโดนบ่นเลย!!'

      -----------------------------------------------------------

      เป็นยังไงบ้างค่ะ ห่วยสุดๆเลยใช่มั้ยค่ะ ไรท์งงๆกับตัวเองเหมือนกัน
      งานหน้าจะพยายามกู้สมองและความสามารถตัวเองกลับมา
      แต่ปิดเทอมนี้อาจไม่ได้ลงฟิคแล้ว เพราะไรท์ไปต่างประเทศ ขอโทษจริงๆนะค่ะ
      อย่าลืมเม้นสักนิด แอด fav สักหน่อยนะค่ะ 
      อีกอย่าง...แอดมาเป็นเพื่อนกันด้วยนะค่ะ!!!
      ไรท์อยากมีเพื่อนเยอะๆค่ะ ไรท์ไม่บุกทำร้าย(?)ใครหรอกค่ะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×