----------------------------------
จิ๊บ จิ๊บ
นกนัอยส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วด้วยความร่าเริง ใบไม้ไหวตามลมอย่างช้าๆ พระอาทิตย์ซ่อนตัวภายใต้ก้อนเมฆกลุ่มเล็กในท้องฟ้าสีคราม วันนี้อากาศดีเหมาะแก่การออกไปเดินเล่น ลมอ่อนๆพัดพากลิ่นหอมหวนของดอกไม้ที่เด็กสาวทายาทเมดูซ่าปลูกไว้ที่ระเบียงโชยเข้าจมูกคนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น
"ฮัดชิ้ว ตอนนี่กี่โมงแล้วเนี่ย คิโดะ" หนุ่มผมบลอนด์หันมาถามเด็กสาวที่นั่งดูทีวีอยู่ข้างๆก่อนจะจามอีกรอบ
ผู้ที่ถูกถามถอนหายใจ เธอไม่ตอบแต่ยื่นกล่องทิชชู่ให้เขาแทน
คาโนะรับกล่องทิชชู่มาวางไว้บนตัก เขาพึมพำเบาๆ "คิโดะนี่เหมือนแม่จริงๆนั่นละ"
"นายว่าอะไรนะ" คิโดะถามด้วยเสียงเนือยๆพลางดูดน้ำแดงโซดาในมือ
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามแล้ว แมรี่ไปซื้อต้นไม้มาปลูกกับเซโตะและโมโมะ ฮิบิยะไม่อยากไปไหน แต่โดนโมโมะลากไปด้วย
ส่วนทาคาเนะกับอายาโนะก็ปฏิบัติการลากสองหนุ่มออกมาเที่ยว ทำให้เธออยู่กับคาโนะกันสองคนอีกเช่นเคย
"ฮะๆ ไม่มีอะไรหรอก~ คิโดะอยากฟังเสียงผมขนาดนั้นเลย~" คาโนะยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะโดนฝามือพิฆาตที่หัวไปรอบนึง "มันเจ็บนะ เดี๋ยวผมก็สมองเสื่อมกันพอดี ฮัดชิ้ว"
เธอดูดน้ำอย่างสบายใจไม่สนใจเสียงร้องโอดโอยของเขา "ถ้าแพ้กลิ่นดอกไม้..ก็ไม่เห็นต้องให้แมรี่ปลูกต้นนี้เลย"
หนุ่มตาแมวเช็ดน้ำมูกที่ไหลออกมาจากการจาม เขาโยนทิชชู่ลงถังขยะอย่างแม่นยำ "ผมไม่ได้แพ้แต่กลิ่นดอกไม้มันแรงมากเลย ถ้าอ่อนๆมันก็หอมนะ แต่นี้มันแรงเกินไป คิโดะลองมานั่งสิ บนตักผมก็ได้นะ~"
เด็กสาวส่งสายตาอำมหิตพลางดัดข้อมือ เสียงกระดูกดังกร๊อบเหมือนกระดูกจะร้องโหยหวนเพราะความรุนแรงของเจ้าของ
"เน้ๆ คิโดะซังใจเย็นๆสิครับ ผมล้อเล่น~ ว่าแต่มื้อเย็นกินอะไรละ" เขารีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเพื่อความปลอดภัยของเขาเอง
คิโดะลดมือลง เธอมองหน้าเด็กหนุ่มขี้แกล้งพอเป็นสัญญาณ
'..ขอไปดูในตู้เย็นก่อน..'
หัวหน้าสาวลุกขึ้นเดินไปที่ห้องครัวเพื่อดูของในตู้เย็น เสียงเปิดตู้เย็นดังขึ้น คาโนะนั่งกระดิกเท้ารอว่าเมื่อไรเด็กสาวจะเดินมา ในที่สุดคิโดะก็เดินกลับมานั่งพร้อมกระดาษและปากกาในมือ
"ว่าไง เย็นนี้คิโดะจะทำอะไรให้ผมกิน~" เขาสะกิดไหล่เธอเบาๆ
"ไม่มีอะไรในตู้เย็นเหลือให้ทำอาหารเลย..."เธอเขียนวัตถุดิบต่างๆในกระดาษ "นายต้องไปซื้อแล้วละ..."
"อ่า..ผมไปได้นะ แต่ว่า..." คาโนะขยับเข้ามาใกล้ๆก่อนจะพูดเบาๆ "คิโดะก็ต้องอยู่คนเดียว..อยู่ได้หรอ?"
ร่างบางที่กำลังเขียนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเขียนต่อไป
"ตอนนี้เดือนตุลา..ช่วงนี้...ผีดุด้วยนะ~ แต่คุณหัวหน้าก็คงไม่กลัวอยู่แล้วเนาะ~" คาโนะแบมือข้างตัวแล้วหัวเราะเบาๆ
คิโดะสะดุ้งอีกครั้ง คราวนี้เธอมือสั่นและหยุดเขียนไปเสียดื้อๆ ก่อนจะลุกไปเก็บปากกาแล้วหันมาเผชิญหน้ากับคาโนะที่นั่งยิ้มอยู่
"..ฉันจะไปกับนาย..ที่ไปเพราะว่าเดี๋ยวนายซื้อไม่ถูก...ไม่ใช่เพราะกลัวผีนะ"
ผ่านไปสองชั่วโมง
ตอนนี้เพื่อนสนิททั้งสองเดินอยู่ท่ามกลางผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของทั้งสองข้างทางของถนนแห่งนี้ เสียงขานเรียกลูกค้าของแม่ค้าและเสียงลูกค้าที่ขอลดราคาผักในมือกับคนขายดังทั่วถนน
มือทั้งสองข้างถือถุงพลาสติกที่มีทั้งผัก ผลไม้ เนื้อ ปลาซาบะ เนย และอื่นอีกเยอะจนคาโนะถือแทบไม่ไหว จะไม่หนักได้ยังไงในเมื่อคิโดะถือแต่ของเบาๆแล้วเอาของหนักๆมาให้เขาถือแทน
"คิโดะ นี้เราจะกินทั้งหมดนี้เลยหรอ" เขาอดที่จะบ่นไม่ได้จริงๆ เขามองเพื่อนสาวที่เอาแต่มองแผนที่ใบน้อยในมือ
'แผนที่..การเดินทางไป..ร้านโตฟุมิ..หรอ?'
พวกเขาเดินมาเรื่อยๆ ผ่านร้านขายดังโงะ ร้านผักผลไม้ และร้านเบเกอรี่ คิโดะเงยหน้าเพื่อมองตรอกข้างทาง
"เราจะเข้าไปในตรอกนี้กันหรอ" คาโนะมองเข้าไปในตรอกที่แทบไม่มีใครสังเกตว่ามีอยู่
คิโดะถอนหายใจ เธอเดินเข้าไปในตรอกที่ค่อนข้างมืดผิดกับบรรยากาศที่ดูครึกครื้นสว่างไสวของถนนพร้อมกับคาโนะที่ดูตื่นเต้นเหมือนเด็กๆไปทัศนศึกษานอกโรงเรียนของเด็กอนุบาล
ในตรอกนั้นมืดและเงียบมาก ทั้งทีไม่ห่างจากถนนหลักนัก ผนังสูงหลายเมตร แต่ไม่สกปรกอย่างที่คิดไว้ ควรจะบอกว่าสะอาดซะด้วยซ้ำ พื้นไม่มีรอยเปื้อนสกปรก จะมีรอยเปื้อนที่ขัดไม่ออกเท่านั้นที่อยู่บนพื้นและผนัง ไม่มีเศษขยะอะไร มีเพียงลังกระดาษที่วางซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ การเดินไม่ค่อยลำบากนักเพราะท้องฟ้ายังไม่มืดนัก เมื่อเดินไปได้สักพักก็ถึงส่วนที่มีแสงสว่างเหมือนถนน เป็นแสงจากโคมไฟที่อยู่หน้าร้านในตรอกซึ่งมีอยู่แค่ร้านเดียว หน้าร้านปิดป้ายประกาศที่ดูคลาสสิคมาก
'ร้านโตฟุมิ ยินดีให้บริการ ร้านเปิดตั้งแต่ 10.00-21.00 น.'
"ร้านนี้ขายอะไรเนี่ย" คาโนะมองร้านที่เปิดอยู่ร้านเดียวในตรอกอย่างสนใจ
ร้านนี้มีสภาพที่ดูเก่ามาก ซึ่งดูได้เลยทันทีว่าเป็นบ้านไม้ที่มีคนอาศัยอยู่ หน้าร้านมีลังกระดาษวางอยู่หลายกล่องและยังมีม้านั่งไว้นั่งรออีกด้วย
"เข้าไปเดี๋ยวก็รู้เอง" คิโดะผลักประดูไม้เข้าไป ในร้านตกแต่งแบบร้านญี่ปุ่นของแท้ สิ่งของเครื่องใช้ล้วนเป็นไม้ มีเด็กผู้หญิงตัวน้อยกำลังนั่งหันหลังดูทีวีอยู่หลังเคาท์เตอร์อย่างตั้งใจโดยไม่สนใจผู้มาเยือนทั้งสอง จนคิโดะต้องกระแอมไปทีนึง เด็กน้อยจึงหันมาหน้าบึ้งใส่ทั้งสอง
"พี่ซึโบมิมาขัดจังหวะทุกครั้ง...วันนี้จะเอาอะไรค่ะ" เด็กน้อยพูดด้วยเสียงเนือยๆก่อนจะหันไปดูทีวีอีก เธอใส่แว่นและถักเปียเดียวไว้ข้างหลัง แก้มเรื่อสีชมพูดูน่าหยิก หน้าตาบึ้งตึงเจ้ากับแว่นหนาๆของเธอ
เด็กสาวผู้ถูกเมินไปยิ้มนิดๆ ก่อนจะตอบเพียงว่า "สัปดาห์นี้มีเต้าหู้แบบไหนบ้างละ..ฮินะ"
คาโนะแอบมองเพื่อนที่มาด้วยกันพลางเดินสำรวจรอบๆร้าน 'ร้านนี้ขายเต้าหู้หรอเนี่ย..ว่าแต่เดี๋ยวนี้เขาใช้แรงงานเด็กกันแล้ว?!?'
เด็กน้อยผู้ชื่อ ฮินะ ยังดูทีวีต่อไปขณะที่ตอบลูกค้ายามเย็น "มีหลายอย่างค่ะ..เต้าหู้ไข่..ฟองเต้าหู้..เต้าหู้คินุ..หรือจะเอาเต้าหู้จีนดีค่ะ?"
"เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบใช้เต้าหู้จีน..ขอเต้าหู้คินุละกัน"
"พี่เอาแต่แบบเดิมทุกครั้ง แล้วพี่จะถามทำไมค่ะเนี่ย" ฮินะหันมาพึมพำด้วยความหงุดหงิด เธอเดินเข้าไปหลังร้านก่อนจะกลับมาพร้อมกล่องพลาสติกที่ใส่เต้าหู้ยื่นให้ลูกค้าสาวสุดสวย
"เดี๋ยวครั้งหน้าจะเอาขนมมาฝากละกัน..ไปนะ" คิโดะโบกมือให้เด็กหญิง แล้วลากเพื่อนสนิทที่เงียบตั้งแต่เข้ามาในร้าน
ฮินะยิ้มออกมา ทำให้หน้าตาที่เมื่อกี้บึ้งตึงกลับน่ารักน่าหยิก "อย่าลืมนะค่ะ พี่ซึโบมิ~"
ทั้งสองเดินออกมาจากตรอกมืดเข้าสู่ถนนหลักแล้ว ทำให้รู้สึกว่าเสียงจากคนบนถนนช่างดังจริงๆ คาโนะที่เงียบมาตั้งแต่เข้าไปในร้านเข้าไปสะกิดไหล่คิโดะเบาๆ
"นี้ๆ น้องคนนั้นนะ เขาอายุเท่าไรแล้ว"
เธอส่งสายตาอำมหิตทันที "นายถามอายุผู้หญิงได้ไง..คา..โนะ..ไม่มีมารยาทจริงๆเลย!!!"
"ว้าก!!!!"
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
"กลับมาแล้ว"
ในที่สุดก็ได้กลับมาฐานทัพ แมรี่ โมโมะ ฮิบิยะและเซโตะนั่งเล่นสลาฟ*โดยใช้ไพ่ชุดสัตว์น้อยน่ารักรอสองสหายกลับมาอย่างสนุกสนาน
"หึหึ คุณป้า อย่าลืมนะว่า คนแพ้ต้องทำอะไรนะ" สมาชิกที่อายุน้อยที่สุดกล่าวอย่างผู้มีชัยขณะถือไพ่เพียงสามใบในมือ
ไอดอลสาวนั่งเหงื่อตกกับไพ่ที่ตนมีอยู่ ตอนนี้เธอมีไพ่เหลือเยอะที่สุด "ระ..รู้แล้วน่า..คนแพ้ต้องไปรับใช้พี่หนึ่งวันเต็ม..ฉันไม่แพ้แน่!!!"
"ฉะ..ฉันก็จะพยายามค่ะ!!" แมรี่จ้องไพ่ห้าใบในมือปานจะกลืนไปกับเนื้อกระดาษ
เซโตะที่ตอนนี้เหลือไพ่เพียงใบเดียวขำกับท่าทางขมักเขม้นของสองสาวในวง "รีบลงเถอะ ตานี้เป็นของคิซารากิจังนะ ผมจะได้ลงสักที"
คนทั้งสี่ยังนั่งเล่นต่อไปโดยไม่สนใจสมาชิกที่เพิ่งกลับมา คิโดะเดินเข้าห้องครัว คาโนะเลยต้องเดินเจ้าไปสะกิดไหล่เซโตะ "พวกชินทาโร่คุง
ยังไม่กลับมาหรอ"
ผู้ถูกถามส่ายหน้า "ยังเลย น่าจะสนุกจนเพลินนะ"
คาโนะมองนาฬิกาก่อนจะบอกโมโมะว่าต้องแพ้แน่จนโดนแหวกลับเลยเดินตามหัวหน้าของตนเข้าครัวไป
"วันนี้ซึโบมิจังจะทำอะไรให้กินเอ่ย~"
คิโดะกลอกตาก่อนจะหยิบกล่องเต้าหู้ออกมา "วันนี้กินเต้าหู้เย็น สบายท้องดี ถ้าไม่มีอะไรทำก็ไปนั่งรอไป"
"เอ๋ ทำไมไล่กันเลยละ ผมอยากเห็นคิโดะโชว์ฝีมือนินา~" คาโนะอิดออดไม่อยากไป สุดท้ายโดนหมัดไปหมัดนึงจึงต้องถอนตัว
แม่ครัวมือฉมังแกะกล่องเต้าหู้ออกมา แล้วเริ่มทำอาหารทันที เต้าหู้เย็นทำไม่ค่อยยากนัก เธอจึงทำเสร็จค่อนข้างเร็ว
เด็กสาวจัดจานเสร็จเรียบร้อย เธอมองเต้าหู้ในจานตัวเองก่อนจะมองซ้ายมองขวา
'..อึก..ขอแอบกินสักหน่อยละกัน..'
ขณะที่คิโดะกำลังชิมเต้าหู้ในจานของตน ก็มีเงาหนึ่งมาจับไหล่
'เฮือก อะ..อะไรนะ อย่าบอกนะว่า...!!'
เสียงของคนที่กวนได้ตลอดเวลาก้องกังวาลในหัวเธอ
'ตอนนี้เดือนตุลา..ช่วงนี้...ผีดุด้วยนะ~..'
คิโดะปล่อยหมัดไปที่สิ่งที่แตะไหล่เธอทันที ไม่ว่าจะเป็นอะไรเธอก็จะไม่ปล่อยไว้แน่
"อึก คะ..คิโดะ ผมเอง..." หนุ่มผมบลอนด์ลงไปนอนที่พื้นขณะที่มือกุมท้องที่เพิ่งโดนชกมา
เด็กสาวผู้เกือบเป็นฆาตกรมองภาพตรงอย่างโล่งใจ..อย่างน้อยก็ไม่ใช่ผี...
"นี้ คิโดะต้องรับผิดชอบนะ~" เขาลุกขึ้นมานั่งโดยที่ทำหน้าตาให้ดูน่าสงสารที่สุด
คาโนะมองไปที่ช้อนที่วางอยู่ข้างจานเต้าหู้จานหนึ่งซึ่งมีรอยโดนตักไปกินแล้วก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์
"คิโดะแอบกินอาหารเย็นก่อนหรอเนี่ย..สงสัยต้องรับผิดชอบสองเท่าแล้วละ" เด็กหนุ่มหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้เธอ
เด็กสาวได้แต่กอดอกและถอนหายใจ "จะให้ฉันทำอะไรละ"
คาโนะหยิบช้อนทีาเธอเพิ่งใช้กินเมื่อกี้ตักเต้าหู้กิน เขาลิ้มรสเต้าหู้ที่หอมและนุ่มสมกับที่คิโดะทำ
"นายต้องรับผิดชอบด้วยซ้ำ ทำฉันตกใจแท-" คำพูดของเธอถูกตัดไปเพราะริมฝีปากของเด็กหนุ่มตรงหน้าประกบกับริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็ว เขาค่อยๆลิ้มรสหวานอย่างช้าๆ ริมฝีปากของผู้หญิงตรงหน้าเขานุ่มนิ่มและหอมหวานกว่าเต้าหู้ที่เขาเพิ่งกินไปด้วยซ้ำ เขาค่อยๆถอน
ริมฝีปากออกแล้วตอบเด็กสาวที่หน้าแดงเป็นมะเขือเทศเพียงว่า "ขอบคุณสำหรับมื้อนี้นะ ซึ โบ มิ~"
คิโดะที่ตอนนี้หน้าแดงเป็นมะเขือเทศบีบมือตัวเองแน่นก่อนจะตะโกนลั่นไปอีกสามช่วงตึก
" ไปตายซะ ไอ้บ้าคาโนะ!!!!!"
"อ้าว หน้าคาโนะซังโดนอะไรมาค่ะ ทำไมบวมแดงจัง" แมรี่ผู้ใสซื่อมองหน้าบวมของหนุ่มตาแมวที่เพิ่งรับผิดชอบเรื่องสักอย่างที่ไม่มีใครรู้
ตอนนี้ทุกคนนั่งกินมื้อเย็นอย่างเอร็จอร่อย ชินทาโร่และคนอื่นๆกลับมาหลังจากเสียงตะโกนที่ดังอย่างบ้านแตกไปแล้วไม่นาน
อายาโนะหันมาถามน้องชายอย่างเป็นห่วง "ชูยะไปโดนอะไรมานะ หน้าบวมเลย"
"แหะๆ ไม่มีอะไรครับ" คาโนะเหล่มองไปทางสาวผู้เป็นต้นเหตุซึ่งตอนนี้นั่งห่างกับเขาเป็นพิเศษ
"ต้องเกี่ยวกับคิโดะแน่เลย...ฉันรับประกัน.." ชินทาโร่ยังกินข้าวต่อไปได้หน้าตาเฉยขณะที่ผู้ถูกพาดพิงหน้าแดงก่ำ
ผู้อ้างตัวเป็นผู้ถูกทำร้าย(?)อดขำไม่ได้กับท่าทีของผู้หญิงที่เขาเพิ่งไปขโมยจูบมา "ว่าแต่นะ..คิโดะจ่ายค่าเต้าหู้แล้วหรอ?"
คิโดะไม่รู้จะตอบอะไรดี เธอลืมจ่ายค่าเต้าหู้
'..ฮินะคงต้องโดนบ่นอยู่แน่..ขอโทษนะ..ฮินะ'
ตัดมาที่ร้านโตฟุมิ
"..บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้ลืมเก็บตังค์ลูกค้า บลาๆ"
เสียงผู้หญิงวัยกลางคนบ่นลูกสาวตนเองดังทั่วร้าน เธอบ่นมานานกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วเพราะความสะเพร่าของลูกสาว
'พี่ซึโบมิ~ พี่ต้องรับผิดชอบ!! หนูโดนบ่นเลย!!'
-----------------------------------------------------------
เป็นยังไงบ้างค่ะ ห่วยสุดๆเลยใช่มั้ยค่ะ ไรท์งงๆกับตัวเองเหมือนกัน
งานหน้าจะพยายามกู้สมองและความสามารถตัวเองกลับมา
แต่ปิดเทอมนี้อาจไม่ได้ลงฟิคแล้ว เพราะไรท์ไปต่างประเทศ ขอโทษจริงๆนะค่ะ
อย่าลืมเม้นสักนิด แอด fav สักหน่อยนะค่ะ
อีกอย่าง...แอดมาเป็นเพื่อนกันด้วยนะค่ะ!!!
ไรท์อยากมีเพื่อนเยอะๆค่ะ ไรท์ไม่บุกทำร้าย(?)ใครหรอกค่ะ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น